ใบปัดน้ำฝนถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างมากในช่วงฝนตก โดยเฉพาะในฤดูฝน เพราะช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการขับขี่ได้ดีขึ้น สามารถมองเห็นทางได้ชัดเจน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนที่จะดูวิธีการเลือกใช้เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าเมื่อไรที่ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน
1. เนื้อยางมีรอยฉีกขาด มีลักษณะแข็งและกรอบ
2. กวาดน้ำบริเวณกระจกได้ไม่ดี ทิ้งรอยขุ่นมัวหรือละอองน้ำไว้
3. ใบปัดน้ำฝนที่มีอายุเกิน 1 ปี ควรเปลี่ยน
4. ขณะปัดน้ำฝนเกิดเสียงหรือมีอาการกระตุก สาเหตุเกิดจากการเสียดสีระหว่างยางและกระจก
วิธีการเลือกใบปัดน้ำฝน
1. ใบปัดน้ำฝนต้องผลิตมาจากเนื้อหรือวัสดุที่มีคุณภาพดี เพื่อให้คงทนต่อทุกสภาพอากาศและได้มาตรฐาน
2. โครงใบปัดควรทำมาจากโลหะ เพื่อป้องกันการกระพือเวลารถวิ่งด้วยความเร็วสูง และยังช่วยเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำออกจากกระจกได้ดี
3. ขนาดของที่ปัดน้ำฝนต้องมีขนาดมาตรฐานเหมาะกับรุ่นรถยนต์ที่ใช้
4. มีราคาที่ไม่แพงจนเกินไปให้เลือกซื้อตามงบประมาณที่มี ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 300-1,000 บาท และควรมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 1 ปี
ที่ปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพแล้วนอกจากจะปัดน้ำฝนออกได้ไม่ดีแล้วยังทำให้กระจกหน้ารถเกิดรอยขีดข่วนขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ และเป็นการดูแลรักษากระจกหน้ารถให้อยู่ในสภาพดีเสมอ เราจึงควรดูแลและเปลี่ยนเมื่อที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ